|
NL ปลื้ม!ราคาหุ้นเทรดวันแรกยืนเหนือจอง จากเชื่อมั่นธุรกิจ แย้มตุน backlog ในมือแตะ 2.1 พันล้านบาท คาดรับรู้ถึงปี 68 พร้อมเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง
นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL เปิดเผยว่า ราคาหุ้น NL ที่เข้าซื้อขายวันแรกสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาไอพีโอนั้น เป็นผลมาจากนักลงทุนให้การตอบรับที่ดี หลังจากที่บริษัทได้เดินสายให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีความเฉพาะในการดำเนินธุรกิจของ NL มาอย่างต่อเนื่อง
ด้านเป้าหมายการเติบโตในอนาคต บริษัทยังคงยึดถือแนวทางการหางานที่ผู้ว่าจ้างให้มูลค่า และ มีอัตรามาร์จิ้นที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้วางเป้าหมายที่จะต้องมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ในระดับที่เท่าใด แต่มองถึงจังหวะที่เหมาะสมในการเข้ารับงาน คือ คำตอบที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม งานภาครัฐที่ช้าในช่วงที่ผ่านมา ในขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว หลังหน่วยงานภาครัฐประกาศให้สามารถเดินหน้าประมูลงานได้เลย ส่วนงบประมาณก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าในปี 2567 จะเป็นปีที่ดีของบริษัท
ทั้งนี้ ณ สิ้นงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,107.25 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/66 ถึงปี 2568 ในขณะเดียวกันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ จำนวน 3 โครงการ ซึ่งเป็นทั้งงานภาครัฐ และ งานภาคเอกชน โดย 2 ใน 3 งาน เป็นงานสถานพยาบาล
"งานใหม่ที่บริษัทได้ประมูลเข้ามานั้น คาดว่า จะเริ่มทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 และ ปี 2568 อีกทั้ง ในช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้ สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากงานภาครัฐประมาณ 70% และ งานเอกชน 30% ซึ่งปัจจุบันก็มีสัดส่วนตัวเลขดังกล่าวแล้ว"
สำหรับเหตุผลหลักที่บริษัทเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อจะใช้ในการขยายงาน โดยยังคงกลยุทธ์เดิม คือ จะไม่มีการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพราะบริษัทไม่ต้องการมีค่าใช้จ่ายทางด้านดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้น (IBD/E) จะอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยปัจจุบันมี IBD/E อยู่ที่ระดับ 0.02 เท่า ดังนั้นในอนาคตหากมีการรับงานเพิ่ม ก็เชื่อว่า สัดส่วนของอัตราหนี้ต่างๆ จะไม่เปลี่ยนแปลงไป
“เราไม่ได้วางเป้าหมายอัตราการเติบโตว่า จะต้องโตท่าไหร่ เราโฟกัสให้มีงานที่สม่ำเสมอ และ ยังคงรักษาจุดแข็ง เรื่องของการขยายทีมงาน ซึ่งเราไม่ต้องการขยายเร็วจนเกินไป เพราะการขยายทีมในตอนได้งานเพิ่มจะเป็นการเพิ่มต้นทุนดังนั้น การตั้งเป้ารายได้จะโตเท่าไรอาจจะไม่ใช่คำตอบ แต่เราก็พยายามคุมว่าจุดคุ้มทุนกับต้นทุนอยู่ที่ระดับไหน โดยหลังจากนั้นหากมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะสะท้อนออกมาเป็นมาร์จิ้นด้วย”นายศรันย์ กล่าว
|